เรื่องสยองเงาสะท้อน

ฉันรู้จักกับพี่เจี๊ยบนานหลายปีตั้งแต่สมัยทำงานบริษัทแห่งแรก เมื่อฉันได้งานที่ใหม่ก็ยังคบหากับพี่เจี๊ยบเรื่อยมา พี่เจี๊ยบเป็นคนคุยสนุก ร่าเริง ไม่เรื่องมาก ฉันอายุน้อยกว่าพี่เจี๊ยบหลายปีแกก็พูดคุยกับฉันเหมือนคนรุ่นเดียวกัน
ครั้งหนึ่งพี่เจี๊ยบเล่าขำว่า แกตื่นนอนตอนเช้า แล้วตกใจเงาของตัวเองที่สะท้อนอยู่ในโทรทัศน์ คุณคงเห็นจอโทรทัศน์ เมื่อมองเข้าไปหากทำมุมถูกต้องก็จะเห็นเงาตัวเองหรือสิ่งของด้านหลังสะท้อนให้เห็น แกบอกว่าตอนแรกนึกว่าผีหลอก พอเห็นเป็นใบหน้าตัวเองจึงนึกขำ
แล้ววันหนึ่งพี่เจี๊ยบก็มาพักที่ห้องของฉัน ก่อนมาหาฉัน ฉันเพิ่งทราบจากเพื่อนคนอื่นว่าพี่เจี๊ยบอกหักจากหนุ่มฮอตประจำออฟฟิศ ซึ่งฉันไม่รู้จักหรอก แต่อาการอกหักของพี่เจี๊ยบครั้งก่อนดูอย่างไรก็ไม่เหมือนคนอกหัก พี่เจี๊ยบไม่กินเหล้า ไม่พูดไปเรื่อย ไม่เอาแต่กินเหมือนคนอกหักบางคน หรือไม่กินเลยเหมือนคนบางคนอีกนั่นแหละ พี่เจี๊ยบใช้ชีวิตตามปกติ แต่ตอนมาหาฉันครั้งนี้ตอนนั้นเป็นเวลากลางคืนสี่ทุ่มแล้ว ฉันกำลังรีดเสื้อผ้าเตรียมไว้ใส่ทำงานวันรุ่งขึ้น พี่เจี๊ยบก็มาเคาะที่ห้อง
"คืนนี้ขอนอนค้างหน่อยได้ไหม" พี่เจี๊ยบเอ่ย มีหรือฉันจะปฏิเสธ ฉันทราบเรื่องเลาๆ มาก่อนหน้าแล้ว
"ได้สิพี่ ทำไมจะไม่ได้ แล้วนี่พี่กินอะไรมาหรือยัง ดูหน้าซีดเซียวชอบกล คงยังไม่ได้กิน เดี๋ยวฉันไปดู เซเว่นฯ หาอะไรกินกันดีไหม พี่นั่งรอที่ในห้องนี่" ฉันพูดด้วยความห่วงใย
"อย่าลำบากเลย พี่แค่มาลา มาคุยเรื่องที่ค้างคาใจ"
"มาลา! พี่จะไปไหน อกหักแค่นี้จะหนีไปเมืองนอกเลยหรือ" ฉันกระเซ้าเย้าแหย่พี่เจี๊ยบ "ไม่เอาน่าพี่ ยิ้ม ทำตลกๆ เหมือนพี่เจี๊ยบคนเดิมสิ หนูชอบแบบนั้น ใครก็ชอบแบบนั้น"
"แต่มีคนไม่ชอบ"
"เฮ้ย พี่ ผู้หญิงมีอีกเยอะแยะ เดี๋ยวหนูแนะนำเพื่อนที่ทำงานให้ นิสัยดีๆ ยังโสดมีให้พี่เลือกอีกบานตะไท"
"มันไม่ใช่แบบนั้น พี่รักของพี่ ไม่มีเค้าพี่อยู่ไม่ได้" พูดจบพี่เจี๊ยบก็ซึม แต่ไม่ได้ร้องโฮลั่น น้ำตาไหลซึมๆ ค่อยๆ หยดลงทีละหยด ดูน่าสงสารมาก ฉันพยายามหันความสนใจไปทางอื่น แต่ไม่ได้ผลเท่าไหร่ พูดเรื่องอื่น พี่เจี๊ยบก็มักจะวนมาเล่าเรื่องผู้หญิงคนนั้น เล่าความรักที่ล้มเหลว พี่เจี๊ยบเอาแต่โทษตัวเองผิดกับพี่เจี๊ยบคนที่ฉันเคยรู้จัก
"ดูทีวีกันมะ" ฉันเสนอ แล้วเอ่ยชื่อละครดังทางโทรทัศน์ ซึ่งตามปกติแล้วพี่เจี๊ยบจะไม่พลาด "คอละครเหนียวหนึบแบบพี่ต้องไม่พลาด" แล้วฉันก็กดสวิตช์เปิดโทรทัศน์ พี่เจี๊ยบนั่งดูกับฉันไปแกนๆ ฉันจึงพูดว่า "ไม่ใช่ไม่อยากฟังเรื่องพี่นะ แต่อยากให้พี่ลืมๆ ไปมั่ง ชีวิตของผมมันก็ของผม อย่าไปขึ้นกับคนอื่น วันนี้พี่อาจเสียใจมาก วันหน้าพี่อาจหัวผมะตัวเองที่ต้องเสียน้ำตาให้ผู้หญิงคนนี้ก็ได้"
"เธอไม่เป็นแบบพี่ เธอไม่เข้าใจหรอก" พี่เจี๊ยบตอบ
"หนูว่าหนูเข้าใจนะ หนูก็เคยมีแฟน คบกันตั้งแปดปี จู่ๆ เขาก็มาบอกเลิก พี่คิดดูสิ ไม่มีเหตุผลเลย ตอนแรกหนูร้องไห้จนไม่มีน้ำตาจะร้อง แต่มาวันนี้มานั่งคิดดู เลิกกับมันชีวิตหนูดีขึ้น ไม่ต้องจมปลักทำงานโรงงานได้ค่าแรงไม่กี่บาท หนูได้ย้ายที่อยู่ พอย้ายที่อยู่ก็เปลี่ยนงานได้งานใหม่ ได้เจอแฟนคนนี้ซึ่งเขาก็ดีมากๆ ถ้าหนูคบหากับมันอยู่ หนูคงไม่เจอแฟนคนนี้"
พี่เจี๊ยบเงียบ ไม่ตอบ พลางล้มตัวลงนอนบนที่นอนทันที ฉันกำลังนึกว่าบอกพี่เขาให้อาบน้ำก่อนดีไหม ทันใดนั้นเอง! สายตาฉันก็เหลือบมองไปทางทีวีทำมุมได้องศาพอเหมาะ แต่ปรากฏว่ามีแต่ภาพสะท้อนของฉันคนเดียวในนั้น
ไม่มีภาพสะท้อนของพี่เจี๊ยบ!!
ฉันผงะ! ตกใจมาก ถอยหลังไปก้าวหนึ่งก่อนจะมองเข้าไปเพื่อยืนยันสายตาของตัวเองอีกครั้ง ผลปรากฏว่า ไม่มีภาพสะท้อน!
ฉันมองมายังพี่เจี๊ยบที่กำลังจะเคลิ้มหลับตรงหน้า แล้วมองไปยังโทรทัศน์อีก มองสลับไปมาอีกหลายครั้ง
นี่ผม !!! นี่ผม !!!!!
พี่เจี๊ยบลืมตาและถามฉันว่า "มีอะไรหรือ"
"ปะ เปล่า เปล่า พี่ ไม่ มี อะ ไร ค่ะ" ฉันตอบอย่างตะกุกตะกัก
"เป็นอะไร เสียงสั่นๆ หน้าซีด ซีดเหมือนพี่เลยใช่ไหม" คราวนี้เสียงของพี่เจี๊ยบออกจะเบาหวิวและสั่นๆ "บอกแล้วไง พี่แค่มาลา ไม่ได้ตั้งใจจะทำให้กลัว"
คราวนี้ฉันพูดไม่ออก รู้สึกสั่นเข้าไปถึงกระดูก เย็นหลังวาบ
"ขอบใจนะ สำหรับมิตรภาพที่ผ่านมา" พี่เจี๊ยบยิ้มแล้วก็ลุกขึ้น ตลอดเวลาฉันมองพี่เจี๊ยบตรงหน้าสลับกับมองภาพสะท้อนในทีวี ต่อหน้ามี แต่ภาพสะท้อนในทีวีไม่มี ฉันไม่รู้สึกตัวแล้วตอนนั้น!!!
รุ่งเช้าฉันตกใจตื่นเมื่อเพื่อนโทรศัพท์มาปลุก เพื่อนรีบบอกว่า
"พี่เจี๊ยบเสียแล้ว ผูกคอตายเมื่อเย็นวาน"
ขอบคุณ แหล่งที่มาหนังสือพิมพ์ ข่าวสด