เรื่องสยองป้าแป๊ดอาหารตามสั่ง

ตั้งแต่เนื้อหมูราคากิโลกรัมละ 170 บาท ป้าแป๊ดก็เริ่มไม่ค่อยอยากทำอาหารชนิดที่ต้องใช้เนื้อหมูเป็นเครื่องปรุง แม้ป้าแกจะขาย จานละ 35 บาทก็ตาม หลังจากเนื้อหมูขยับเป็นกิโลกรัมละ 200 บาท แกก็ติดป้ายหน้าร้านแจ้งแก่ลูกค้าทันที
"วันนี้ไม่มีเนื้อหมู"
ร้านอาหารตามสั่งของป้าแป๊ดอยู่มุมสุดของ ซอยตันแห่งหนึ่ง กว่าจะเดินทางไปรับประทานได้ต้องเป็นคนที่ติดใจฝีมือปรุงอาหารของแกจริงๆ ร้านแกขายดีมาก ลูกค้าต้องรอนาน เพราะป้าจะปรุงอาหารอย่างไม่รีบร้อน แต่ลูกค้าก็พร้อมจะรอ แกรู้เรื่องนี้จึงมักมีพวกอาหารว่าง ขนมนมเนยต่างๆ วางไว้ให้ขายซึ่งก็ขายดีมากเช่นกัน
ยุทธเองก็ไปร้านป้าแป๊ดบ่อย เพราะทั้งห้องเช่าและที่ทำงานก็ไม่ได้ไกลจากร้าน เรียกว่าสัปดาห์หนึ่งต้องกินอย่างน้อยก็หนึ่งวัน ยุทธติดใจกะเพราหมูไข่ดาวกับหมูย่างราดข้าวของแกอย่างมาก อาหารประเภทต้องใช้เนื้อหมูเป็นส่วนประกอบก็เป็นเมนูนิยมประจำร้าน
พักหลังยุทธตกงาน จึงไม่ค่อยได้ไปร้านป้าแป๊ดบ่อย ครั้งล่าสุดที่ไปยุทธสังเกตเห็นว่าป้าแกเก็บถังแก๊สไว้นอกบ้าน อีกทั้งประตูหลังมักปิดไว้เฉยๆ ไม่ได้ใส่กุญแจล็อกไว้ ยุทธลงมือสืบความเป็นไปของแกและของร้าน แวะเวียนมาดูลาดเลาหลายครั้ง
หลังร้านปิดตอนสองทุ่ม วัยรุ่นเสิร์ฟสามคนในร้านกลับกันหมด ป้าแป๊ดก็จะอาบน้ำ นั่งดูละครทีวีไปเรื่อยจนง่วงนอนก็จะนอน ป้าแกไม่มีลูกไม่มีผัว อยู่คนเดียวมานาน คนในละแวกนินทากันว่าป้าแป๊ดเก็บเงินในบ้าน นานๆ ทีแกถึงจะไปธนาคารสักครั้งผิดกับพ่อค้าแม่ค้าทั่วไปที่มักจะไปธนาคารทุกวัน
เงินกำลังจะหมด งานก็หาไม่ได้ เมื่อเห็นช่องทาง ยุทธจึงตัดสินใจลงมือ
ไฟบนห้องชั้นสองริมหน้าต่างของป้าแป๊ดปิด ยุทธมองจากอีกฝั่งของถนน เขาตั้งขาตั้งมอเตอร์ไซค์ เตรียมยางยืดไว้รัดถังแก๊สกับเบาะ เขาคิดว่าหาอะไรพอแบกได้ ยัดใส่กระเป๋าได้ก็จะหยิบฉวยให้หมด เมื่อเดินไปถึงประตูหลัง ยุทธเล็งแก๊สขนาด 15 ก.ก. ไว้แล้ว เดี๋ยวขาออกจะมาลาก ก่อนจะจัดการหมุนลูกบิดผลักเข้าไปเบาๆ ห้องด้านหลังเป็นที่เก็บอาหารสดและเครื่องมือครัว แต่ก็มีกลิ่นประหลาด ยุทธเดาว่าอาจจะเป็นกลิ่นเนื้อสัตว์ที่ติดตามผนังและที่สำคัญกลิ่นธูป ยุทธกวาดตาไปเห็นธูปที่ป้าแกจุดไว้ ยุทธสบถสองสามคำด่าว่าป้าที่ประมาท เดี๋ยวก็ไฟไหม้หรอก ป้าเอ๋ย นึกแล้วก็เดินไปดับธูป ยุทธรู้มาว่าลูกจ้างของป้าแกจะมาตอนตีห้า ส่วนป้าแกจะลงมาไปตลาดตอนตีสาม ตอนนี้สองทุ่มเศษ ยุทธเห็นว่ามีเวลาอีกมาก จึงไม่รีบร้อน แต่ถึงอย่างไรก็เดินไปที่ลิ้นชักโต๊ะเก็บเงิน มีกุญแจล็อกไว้ทว่าตัวนิดเดียว ยุทธจัดการงัดทีเดียวก็หลุด ในลิ้นชักมีเศษเหรียญและธนบัตรไม่มาก ดูจากสายตาประมาณสองพันบาท ยุทธกวาดลงกระเป๋าเป้หมด ที่นี่คงไม่ใช่ที่เก็บเงินแน่ ถ้าเดาไม่ผิด ป้าแกคงเก็บเงินไว้ใกล้ตัว แต่มันก็เสี่ยงเกินไป
ยุทธกวาดตามองหาอะไรที่พอจะแปรเป็นเงินได้ แน่นอนแก๊สปิกนิกสองลูกตรงนั้นผูกพ่วงข้างก็น่าจะเอาไปได้ พวกมีดอีกคงขายได้ กระทะ ตะหลิวพวกดูแพงๆ คงแปรได้หลายเงินหรอก ยุทธจัดการใช้กระดาษหนังสือพิมพ์ห่อมีด ห่อตะหลิว ทันใดเขารู้สึกพวกกลิ่นที่ติดตามผนังรบกวนการหายใจของเขามาก มันเหม็นสาบยังไงไม่รู้ เขาไม่อยากจะอยู่นาน พลางเห็นตู้แช่ขนาดใหญ่ จึงนึกถึงอาหารสด อาจจะพอติดไม้ติดมือเก็บไว้กินได้หลายวัน ถ้าเกิดมีนะ ยุทธจึงไม่รีรอ จัดการลากถังแก๊สไปสองถังรอที่ประตู พร้อมพวกข้าวของที่หยิบฉวยไว้แล้ว ก่อนตรงไปที่ตู้แช่แข็ง
เมื่อเปิดออกยุทธถึงกับผงะ ตาเบิกโพลงกว้าง ม่านตาขยายเต็มที่ด้วยความตกใจกลัว สิ่งที่ยุทธเห็นก็คือ ซากแขนซากขาและเนื้อมนุษย์ถูกแช่แข็งอยู่ในตู้ ยุทธยืนขาสั่น นี่มันหมายถึงอะไร เขาถอยหลังอย่างไม่รู้ตัว สติสตังและมือไม้ไม่อยู่กับตัว ความกลัวจู่โจมจับใจ ทันใดรู้สึกเหมือนมีใครสะกิดจึงหันหลัง แล้วโลกทั้งใบของยุทธก็หายวับ!
ยุทธนอนเลือดนองกับพื้น มีมีดอีโต้ปักกลาง หน้าผาก ป้าแป๊ดบ่นว่า "ใครใช้ให้มาดับธูปกู แส่ไม่เข้าเรื่อง" ก่อนจะจัดการร่างของยุทธและเช็ดถูพื้น
ตอนที่วัยรุ่นเสิร์ฟมาถึงร้านตอนฟ้าสาง ป้าแป๊ดแกก็จัดการทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย แกเขียนอักษรตัวเท่าหม้อแกงบนกระดาษเอสี่ นำไปติดหน้าร้านว่า
"วันนี้มีเนื้อหมู"
ขอบคุณ แหล่งที่มาหนังสือพิมพ์ ข่าวสด